C-Drive MyCar

C-Drive Mycar CLEVER APP & OBDII แจ้งเตือนเหตุผิดปกติก่อนเกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์และตั้งเตือนการบำรุงรักษารถยนต์

คุณสมบัติการทำงานของแอพพลิเคชั่น

ช่วยติดตามเฝ้าระวังข้อมูลเซ็นเซอร์เครื่องยนต์แบบเรียลไทม์ ใช้คู่กับสัญญาณอินเตอร์เน็ต

  • อุณหภูมิหม้อน้ำ
  • รอบเครื่องยนต์ความเร็ว
    โวลต์แบตเตอรี่
  • ความเร็ว
  • โวลต์แบตเตอรี่

ช่วยตรวจสอบสถานะเครื่องยนต์ทุกครั้งที่คุณใช้งานรถ แม้ปิดหน้าจอมือถือ แจ้งเตือนเหตุผิดปกติได้ตลอดเวลาขณะขับรถ

  • แสดงสถานะเครื่องยนต์ทำงานปกติหรือผิดปกติเมื่อสตาร์ทรถ
  • แจ้งเตือนเมื่อไฟแสดงสถานะเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ
  • แจ้งเตือนความร้อนของหม้อน้ำผิดปกติ
  • แจ้งเตือนโวลต์แบตเตอรี่ต่ำ
  • แจ้งเตือนความเร็วขณะขับขี่
  • ส่งข้อความถึงบุคคลใกล้ชิด เมื่อรถยนต์ผิดปกติ

ตั้งค่าแจ้งเตือน เพื่อช่วยให้คุณดูแลรถง่ายขึ้น

  • แจ้งเตือนต่ออายุทะเบียนรถ
  • แจ้งเตือนต่ออายุ พรบ. ประกันภัยรถยนต์
  • แจ้งเตือนนำรถเข้าตรวจเช็คสภาพ
  • แจ้งเตือนเปลี่ยนยางรถ

บันทึกข้อมูลส่วนตัวและนำมาใช้งานได้ทันทีที่ต้องการ

  • ค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมัน และค่าบำรุงรักษารถ พร้อมสถานที่ที่เข้าใช้บริการแต่ละครั้ง
  • แจ้งเตือนเมื่อไฟแสดงเบอร์โทรบุคคลใกล้ชิด พร้อมปุ่มกดโทรออก
  • เบอร์โทรบริษัทที่ทำประกัน พร้อมปุ่มกดโทรออก

ช่วยแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดูแลรถ การใช้รถและการเดินทางของคุณ

  • เก็บประวัติการเดินทางย้อนหลังและพฤติกรรมการขับรถ
  • แสดงศูนย์บริการใกล้เคียงจุดที่รถเกิดปัญหา หรือใกล้ตำแหน่งที่คุณอยู่ เช่น บ้าน สำนักงาน แสดงข่าวสารจราจรและจุดเกิดอุบัติเหตุ ในระยะใกล้ไปหาไกลจากบริเวณที่คุณอยู่
  • แจ้งโปรโมชั่นเกี่ยวกับรถยนต์

พร้อมคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมาย

  • สามารถทดสอบประสิทธิภาพด้านความเร็วของรถคุณ
  • สามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอการแสดงข้อมูลเซ็นเซอร์รถ ได้หลากหลายรูปแบบ
  • สามารถช่วยเตือนหากคุณเผลอขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด
  • พร้อมแจ้งอัตราความเร็วที่เหมาะสมของแต่ละเส้นทาง

รถยนต์ที่รองรับอุปกรณ์ C-Drive MyCar

รถยนต์ที่รองรับอุปกรอุปกรณ์ C-Drive MyCar ใช้ได้กับรถยนต์ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบันที่รองรับมาตฐาน OBDII
ยกเว้นรถยนต์บางรุ่นตามที่ระบุ


TOYOTA Camry
TOYOTA Collora Altis
TOYOTA Vios
TOYOTA Yaris
TOYOTA Yaris Ativ

HONDA City
HONDA Civic
HONDA Jazz
HONDA Accord
HONDA Brio Amaze

NISAN Almera
NISAN March
NISAN Pulza

FORD Fiesta
FORD Focus

MAZDA Mazda 2
MAZDA Mazda 3

SUZUKI Swift

MG 5

รถเก๋งที่ผลิตตั้งแต่ปี
2008 ขึ้นไป

TOYOTA C-HR
TOYOTA Fortuner
TOYOTA MAJESTY

HONDA Freed
HONDA HR-V
HONDA CR-V

NISAN X-Trail

FORD Everest

SUZUKI Ertiga
SUZUKI XL7

SUBARU XV

MITSUBISHI Pajero Sport

ISUZU Mu-7
ISUZU Mu-X

รถSUV, รถอเนกประสงค์
ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2008
ขึ้นไป

CHEVROLET captiva

Hyundai H1

TOYOTA Hilux Revo

NISAN Navara

CHEVROLET Colorado

FORD Ranger

ISUZU D-Max

MITSUBISHI Triton

รถกระบะที่ผลิตตั้งแต่ปี
2008 ขึ้นไป

รถยนต์ที่ไม่รองรับอุปกรณ์ ODBII

รถยนต์ที่ผลิตก่อนปี 2008
รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle)
รถยนต์ไฮบริด (HyBrid Engine)
รถยนต์ที่ผ่าน/เคยติดตั้งระบบ LPG/CNG
รถยนต์ที่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเครื่องยนต์

ISUZU Dragon eye
MITSUBISHI Lancer GLXI
NISAN Tida
NISAN Teana 2008(Gen2)
NISAN Cube

TOYOTA Hilux Vigo 2009, 2010
TOYOTA Avanza 2011(Gen1)

FAQ

  • สำหรับผู้ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS(เช่น iPhone, iPad) ดาวน์โหลดผ่าน App Store ค้นหาคำว่า “C-Drive MyCar” หรือ คลิกที่นี่
  • สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android (เช่น SAMSUNG, OPPO, REDMI เป็นต้น) ดาวน์โหลดผ่าน Google Play ค้นหาคำว่า “C-Drive MyCar” หรือ คลิกที่นี่

อุปกรณ์ OBDII สีดำ รองรับระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ส่วนอุปกรณ์ OBDII สีขาว รองรับระบบปฏิบัติการ Android เท่านั้น

ตำแหน่งของอุปกรณ์ OBDII จะอยู่บริเวรใต้พวงมาลัยรถยนต์ ซึ่งจะมีตำแหน่งที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์ ตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจงโปรดอ้างอิงจากคู่มือการใช้งานรถ หรือค้นหาจากกูเกิลโดยระบุ ยี่ห้อ รุ่น ของรถยนต์ หรือ คลิกที่นี่

(1) ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน C-Drive MyCar
(2) เสียบอุปกรณ์ OBDII ในช่องเสียบของรถยนต์ ตำแหน่งของอุปกรณ์ OBDII จะมีตำแหน่งที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์ ตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจงโปรดอ้างอิงจากคู่มือการใช้งานรถ หรือค้นหาจากกูเกิลโดยระบุ ยี่ห้อ รุ่น ปีของรถยนต์
(3) เปิดบลูทูธ เชื่อมต่อสัญญาณชื่อ OBDII กรณีที่เป็นระบบปฏิบัติการ iOS ไม่ต้องทำข้อนี้ เนื่องจาก iOS จะเชื่อมสัญญาณให้อัตโนมัติ
(4) ใส่รหัสผ่าน 1234 กรณีที่เป็นระบบปฏิบัติการ iOS ไม่ต้องทำข้อนี้ เนื่องจาก iOS จะเชื่อมสัญญาณให้อัตโนมัติ
(5) ลงทะเบียนใช้งานแอปพลิเคชัน
(6) เพิ่มข้อมูลรถยนต์
(7) เพิ่มข้อมูลอุปกรณ์ OBDII
(8) เริ่มการใช้งาน C-Drive MyCar

  1. คลิกข้อความ “ลงทะเบียน”
  2. ระบุหมายเลขโทรศัพท์
  3. ระบุรหัสยืนยันความปลอดภัย พร้อมยืนยันรหัส
  4. รอรับรหัส OTP พร้อมยืนยันรหัส OTP
  5. คลิกยอมรับข้อกำหนดเงื่อนไขการใช้งาน
  6. ตั้งค่า “รหัสผ่าน” “ยืนยันรหัสผ่าน” และคลิกปุ่ม “ลงทะเบียน”
  1. คลิกเมนู “การตั้งค่า”
  2. คลิกเมนู “ความปลอดภัย”
  3. คลิกเมนู “ลบบัญชีผู้ใช้งาน”
  4. ระบุ “เหตุผลในการลบบัญชีผู้ใช้งาน”
  5. คลิกปุ่ม “ลบบัญชีผู้ใช้งาน”

ข้อควรทราบในการลบบัญชีผู้ใช้งานของคุณ

  • การลบบัญชีผู้ใช้งาน C-Drive MyCar ของคุณ จะเป็นลบข้อมูลส่วนบุคคล และที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ออกจากระบบทันที ซึ่งคุณจะไม่สามารถเข้าใช้งานและไม่สามารถกู้คืนข้อมูลของคุณได้อีก เนื่องจากบริษัทตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกนำกลับมาใช้งานได้อีก เพื่อป้องกันการนำกลับมาใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายและโดยมิได้รับอนุญาต
  • การลบบัญชีผู้ใช้งานจะทำให้อุปกรณ์ OBDII ที่ผูกกับผู้ใช้งานไม่สามารถย้ายหรือลงทะเบียนใหม่ได้อีก
  • C-Drive MyCar ขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธไม่ให้สร้างบัญชีใหม่ด้วยข้อมูลเดิมอีกครั้งในอนาคต

    หรือ สามารถดูรายละเอียดได้จาก วิธีการลบข้อมูลผู้ใช้งานบนแอปพลิเคชั่น C-Drive MyCar (cdrivemycar.com)

ขั้นตอนการลงทะเบียนอุปกรณ์ C-Drive MyCar มี 2 วิธี ดังต่อไปนี้

วิธีที่ 1

  1. คลิกปุ่ม “เพิ่มอุปกรณ์”
  2. สแกนรหัสผลิตภัณฑ์ของคุณ จากคู่มือการใช้งานที่อยู่ภายในกล่อง
  3. คลิกปุ่ม “ลงทะเบียน”

วิธีที่ 2

  1. คลิกปุ่ม “การตั้งค่า”
  2. คลิกปุ่ม “+”
  3. สแกนรหัสผลิตภัณฑ์ของคุณ จากคู่มือการใช้งานที่อยู่ภายในกล่อง
  4. คลิกปุ่ม “ลงทะเบียน”

ขั้นตอนการลงทะเบียนรถยนต์ มี 2 วิธี ดังต่อไปนี้

วิธีที่ 1

1.  คลิกปุ่ม “เพิ่มข้อมูลรถยนต์”

2.  ระบุข้อมูลรถยนต์ ให้ครบถ้วน เช่น

      –  ยี่ห้อรถ

      –  เลขทะเบียนรถ

      –  จังหวัดที่จดทะเบียนรถ

      –  ประเภทรถ

      –  วันสิ้นอายุภาษีรถ

      –  เป็นต้น

      คลิกปุ่ม “…” เพื่อบันทึกข้อมูล

3.  คลิกปุ่ม “บันทึกข้อมูล”

วิธีที่ 2

1.  คลิกปุ่ม “การตั้งค่า”

2.  คลิกเมนู “ข้อมูลรถ”

3.  คลิกปุ่ม “+”

4.  ระบุข้อมูลรถยนต์ ให้ครบถ้วน เช่น

      –  ยี่ห้อรถ

      –  เลขทะเบียนรถ

      –  จังหวัดที่จดทะเบียนรถ

      –  ประเภทรถ

      –  วันสิ้นอายุภาษีรถ

      –  เป็นต้น

      คลิกปุ่ม “…” เพื่อบันทึกข้อมูล

5.  คลิกปุ่ม “บันทึกข้อมูล”

  1. คลิกข้อความ “ลืมรหัสผ่าน”
  2. ระบุหมายเลขโทรศัพท์
  3. ระบุรหัสยืนยันความปลอดภัย พร้อมยืนยันรหัส
  4. รอรับรหัส OTP พร้อมยืนยันรหัส OTP
  5. ตั้งค่า “รหัสผ่านใหม่” “ยืนยันรหัสผ่านใหม่” และคลิกปุ่ม “บันทึกข้อมูล”
  1. คลิกปุ่ม “การตั้งค่า”
  2. คลิกเมนู “ความปลอดภัย”
  3. คลิกเมนู “เปลี่ยนรหัสผ่าน”
  4. ระบุ “รหัสผ่านเดิม” “รหัสผ่านใหม่” “ยืนยันรหัสผ่านใหม่” และคลิกปุ่ม “บันทึกข้อมูล
  1. คลิกปุ่ม “การตั้งค่า”
  2. คลิกเมนู “ข้อมูลส่วนตัว”
  3. แก้ไข “เบอร์โทรศัพท์”
    คลิกปุ่ม “…” เพื่อบันทึกข้อมูล
  4. คลิกปุ่ม “บันทึกข้อมูล”
  1. คลิกปุ่ม “การตั้งค่า”
  2. คลิกเมนู “ข้อมูลส่วนตัว”
  3. แก้ไข “ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน” หรือ “ที่อยู่ปัจจุบัน”
    คลิกปุ่ม “…” เพื่อบันทึกข้อมูล
  4. คลิกปุ่ม “บันทึกข้อมูล”
  1. คลิกปุ่ม “การตั้งค่า”
  2. คลิกเมนู “ข้อมูลรถ”
  3. เลือกรายการรถยนต์ที่ต้องการแก้ไข เพื่อทำการแก้ไขข้อมูล
    คลิกปุ่ม “…” เพื่อบันทึกข้อมูล
  4. คลิกปุ่ม “บันทึกข้อมูล”

!! ไม่สามารถแก้ไขข้อมูล OBDII ได้ ให้ทำการลบอุปกรณ์แล้วลงทะเบียนใหม่ !!! โดย

  1. คลิกปุ่ม “การตั้งค่า”
  2. คลิกเมนู “ข้อมูลอุปกรณ์”
  3. เลือกรายการ OBDII ที่ต้องการแก้ไข เพื่อทำการลบข้อมูล เนื่องจากไม่สามารถแก้ไขข้อมูล OBDII ได้ ให้ทำการลบแล้วลงทะเบียนใหม่ได้เท่านั้น
  4. คลิกปุ่ม “ลบอุปกรณ์”

แอปพลิเคชัน C-Drive MyCar สามารถใช้งานร่วมกับ Google Map ได้ วิธีการใช้งานสามารถดูได้จาก คลิกที่นี่

สามารถใช้ได้ โดย (1) เพิ่มข้อมูลรถยนต์คันที่2 (2) ถอดอุปกรณ์จากรถยนต์คันที่1 มาใส่คันที่2 (3) จากหน้าหลักของ Application จะเห็นรถยนต์มากกว่า 1 คัน ให้กำหนดรถยนต์คันที่จะใช้งานเป็น “กำหนดเป็นค่าเริ่มต้น” เท่านี้ก็จะสามารถใช้งานอุปกรณ์ OBDII ได้

ไม่สามารถ Login เข้าใช้งานพร้อมกันได้ 1 User จะสามารถใช้ได้แค่ 1 อุปกรณ์เท่านั้น ถ้าจะใช้บนอุปกรณ์ใหม่ ต้องทำการ Logout จากอุปกรณ์เดิม และทำการ Login ที่อุปกรณ์ใหม่

สามารถตรวจสอบการใช้งานได้ดังต่อไปนี้

ระบบปฏิบัตการ iOS

  1. Application C-Drive MyCar โดย (1)คลิกเมนู “การตั้งค่า” อยู่ขวามือด้านบนสุด (2)คลิกเมนู “การตั้งค่าขั้นสูง” (3)คลิกเปิดการใช้งาน “แจ้งเตือนกล้องตรวจจับความเร็ว” ให้เป็นสีเขียว
  2. อุปกรณ์มือถือ หรือ แท็บเล็ต โดย (1)คลิกเมนู “Settings/การตั้งค่า” ของอุปกรณ์นั้นๆ (2)คลิก Application C-Drive MyCar (3)คลิก “Location/ตำแหน่งที่ตั้ง” และเลือก “Always/ตลอดเวลา”
  3. เมื่อดำเนินการทำข้อ 1 และ 2 เสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถใช้งาน Application C-Drive MyCar ได้แบบไม่พลาดทุกการแจ้งเตือน หรือ คลิกที่นี่ เพื่อดูไฟล์ VDO ประกอบ

ระบบปฏิบัติการ Android

  1. Application C-Drive MyCar โดย (1)คลิกเมนู “การตั้งค่า” อยู่ขวามือด้านบนสุด (2)คลิกเมนู “การตั้งค่าขั้นสูง” (3)คลิกเปิดการใช้งาน “แจ้งเตือนกล้องตรวจจับความเร็ว” ให้เป็นสีเขียว
  2. อุปกรณ์มือถือ หรือ แท็บเล็ต โดย (1)คลิกเมนู “Settings/การตั้งค่า” ของอุปกรณ์นั้นๆ (2)คลิกเมนู “App/แอป” เลือก Application C-Drive MyCar (3)คลิก “การอนุญาต” >> คลิก “ตำแหน่ง” >> เลือก “อนุญาตตลอด”
  3. เมื่อดำเนินการทำข้อ 1 และ 2 เสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถใช้งาน Application C-Drive MyCar ได้แบบไม่พลาดทุกการแจ้งเตือน หรือ คลิกที่นี่ เพื่อดูไฟล์ VDO ประกอบ

กินไฟน้อยมาก ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่
ตอนไม่ใช้งาน ประมาณ 25 มิลลิแอมป์
ตอนใช้งาน ประมาณ 35 มิลลิแอมป์

  • เมนู “สถานะเครื่องยนต์”, “เฝ้าระวังเซ็นเซอร์”, “สมาร์ทเกจ”, “วิเคราะห์ปัญหารถ”, “ข้อมูลเซ็นเซอร์” ต้องมีอุปกรณ์ OBDII และสตาร์ทรถ ถึงจะใช้เมนูได้
  • เมนู “จุดตรวจความเร็ว”, “บันทึกค่าใช้จ่าย”, “กล่องข้อความ”, “อู่/ศูนย์บริการ”, “ข่าวสาร”, “ช่วยเหลือฉุกเฉิน”, “ประวัติการเดินทาง” ไม่ต้องมีอุปกรณ์ OBDII ก็สามารถใช้งานได้
    หมายเหตุ กรณี “จุดตรวจความเร็ว”, “ประวัติการเดินทาง” ใช้งานไม่ได้ เนื่องจากหมดอายุการใช้งาน กรณีต้องการใช้งานต่อ สามารถต่ออายุได้ในราคา 299 บาท เฉลี่ยวันละไม่ถึง 1 บาท

หากท่านไม่แน่ใจว่ารถยนต์ของท่านรองรับอุปกรณ์
ของ C-Drive MyCar โปรดส่งคำถามมาหาเรา
ทีมงาน C-Drive จะรีบให้คำตอบอย่างรวดเร็วที่สุด